วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

อันซีนไทยแลนด์ กับถ้ำมรกต จ.ตรัง


อันซีนไทยแลนด์ กับถ้ำมรกต จ.ตรัง

หน้าร้อนมาถึงอีกแล้วคร่า ร้อน ๆ แบบนี้ หลายคนพร้อมใจกันไปท่องเที่ยวพักผ่อน คลายความร้อนกันที่ทะเล ซึ่งทะเลบ้านเรา ก็มีหลายแห่ง สวยงาม แม้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เทใจ มาที่ ทะเลเมืองไทยในช่วงหน้าร้อนกันอย่างคับคั่ง วันนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต อย่าถ้ำมรกต จ. ตรัง มาฝากกัน ค่ะ



    ถ้ำมรกต ตั้งอยู่ที่ เกาะมุก อ.กันตัง จังหวัดตรัง นั่งเรือที่ท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือท่องเที่ยว บริการนำเที่ยวเป็นประจำทุกวัน ราคาเหมา 10-15 คน ต่อ 1 วัน ประมาณ 7,000 -8000 บาท (แล้วแต่ตกลงกัน)


    โปรแกรมของการเที่ยวทะเลที่นี่ ผู้ให้บริการเรือ จะพาเราไป 4 เกาะ แบบที่ เราเลือกใช้บริการ จะมีดำน้ำดูปลานกแก้ว ปลาเสือ, ปลาการ์ตูน และปะการัง ทั้งที่เกาะกระดาน เกาะหมาก และเกาะมุกใช้เวลาเดินทาง แต่ละแห่ง รวมเล่นน้ำ ประมาณ 6-7 ชม. เราจะอยู่แต่ในทะเล มีเพียงร่มของเรือเท่านั้นที่ใช้บังแดด ดังนั้น ควรทาครีมกันแดด แบบโบกให้หนาเข้าไว้ และ ทาก่อนลงเล่นน้ำประมาณ 15-20 นาที



    จุดแรก บริเวณเกาะกระดาน ก็จะมีปลาสวยงาม ให้เราลงไปเล่นน้ำ ลงไปให้อาหาร เรือจะจอดให้เราเล่นน้ำ ประมาณ 30 นาที เราสามารถเอาขนมปังให้ปลาได้ จะมีปลาเสือ ปลานกแก้ว ว่ายน้ำมาเป็นฝูง มากินอาหารจากมือ แนะนำว่า ทุกครั้งที่ลงไปในทะเล ควรต้องสวมชูชีพ เพื่อความปลอดภัย เพราะไม่ว่า เราจะว่ายน้ำเก่งแค่ไหน ก็ไม่ควรประมาท



    ถัดจากจุดดำน้ำที่เกาะกระดาน เรือจะพาเรามาจอดใกล้ชายหาดเกาะกระดาน บริเวณที่จะมีการจัดงานจดทะเบียนสมรส ประจำปี ในช่วงวันวาเลนไทน์ ที่นี่ ก็จะมีนักท่องเที่ยว มาจอดเรือเล่นน้ำกันจำนวนมาก



    และจุดที่ถือว่า เป็นไฮไลท์ ของการมาเที่ยวทะเล ที่ จ.ตรัง คือการเข้าไปดูถ้ำมรกต ที่เรียกได้ว่า มันมีความอันซีน ทั้งตัวถ้ำ และวิธีการเข้าถ้ำ คำแนะนำสำหรับสถานที่นี้ คือ ต้องใส่ชูชีพ ต้องว่ายน้ำพอได้ และร่างกายแข็งแรง ปฏิบัติตามคำแนะนำของ คนนำเที่ยวอย่างเคร่งครัด



    เรือ จะจอดให้เราลง ห่างจากปากทางเข้าถ้ำประมาณ 100 เมตร จะมีคนนำขบวน อยู่หน้าสุด และนักท่องเที่ยวที่มากรุ๊ปเดียวกัน ก็จะเกาะหลังกันไปแบบแถวเรียง 1 ช่วยกันว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำ บางช่วงเวลา คลื่นจะซัดเข้าหาปากถ้ำ ทำให้กระแสน้ำแรงพอสมควร




    เมื่อผ่านเข้าปากถ้ำ คนนำขบวนซึ่งมีไฟฉายอยู่ที่หน้าผาก จะแนะนำให้ระวังหินงอกหินย้อย ที่ อยู่ด้านบนศีรษะ และระมัดระวัง ขบวนของกรุ๊ปทัวร์อื่นๆ ที่ว่ายน้ำสวนทางกันออกมา ระหว่างทางเข้าไป เราจะเห็นได้เลยว่า น้ำในถ้ำช่วงปากทางเข้า นั้น เมื่อสะท้อนกับแสงด้านนอก มันมีสีเขียว เหมือนมรกต สวยงาม มากๆ ความยาวจากปากถ้ำ เข้าไปด้านในที่เป็นชายหาดประมาณ 80 เมตร ที่เราต้องลอยคอเข้าไป



    เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหายทรายขาดสะอาด น้ำใสน่าเล่น ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน ที่มีท้องฟ้าเป็นหลังคา และผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้ โพรงที่ลอดเข้า ถ้ำมรกต จะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเกาะมุก


    หลังจากเข้ามาถึงด้านในแล้ว เราก็มาถ่ายรูป เก็บบรรยากาศเล่นน้ำสัก20 นาที ให้คลายเหนื่อย ก่อนที่จะว่ายน้ำกลับออกไปขึ้นเรือด้านนอก

    สิ่งประทับใจสำหรับการท่องเที่ยว ที่ถ้ำมรกต แห่งนี้ คือ เราจะรู้ซึ้งถึงการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เพราะใครที่ว่ายน้ำไม่ค่อยเก่ง หรือ ว่ายน้ำพอได้ ก็จะมีคนที่ว่ายน้ำเก่งกว่า คอยช่วยเหลือ พยุง และว่ายน้ำประคองกันออกมา จนพาขึ้นเรือได้อย่างปลอดภัย นี่แหละมิตรภาพระหว่างการเดินทาง สามารถ เกิดขึ้นได้ทุกที่

ที่มา:http://travel.thaiza.com/

แจงปมปิดเกาะตาชัย เหตุนักท่องเที่ยวล้น-ธรรมชาติเสื่อมโทรม

เกาะตาชัย

          อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เรียกผู้ประกอบการในพื้นที่ทำความเข้าใจเรื่องการปิดเกาะตาชัยพร้อมวางแผนรับมือและแก้ปัญหานักท่องเที่ยว เร่งให้แล้วเสร็จก่อนเปิดเกาะต้นเดือนพฤศจิกายน

          จากกรณีที่ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงนามประกาศปิดหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา บริเวณพื้นที่ชายหาดและแนวปะการังน้ำตื้นรอบเกาะตาชัย โดยไม่มีกำหนดเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมบนเกาะ และใต้ทะเลหลังพบปะการังฟอกขาวจำนวนมากนั้น

เกาะตาชัย

          ล่าสุด (18 พฤษภาคม 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐ โก่งเกษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ได้มีการเรียกประชุมผู้ประกอบการในพื้นที่อุทยานฯ เข้ามาชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมกับหารือมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวยังเกาะสิมิลัน โดยเฉพาะเกาะสี่ และเกาะแปด

เกาะตาชัย

          ทั้งนี้ นายณัฐ เปิดเผยว่า จากปกติที่อุทยานฯ จะปิดเกาะในช่วงฤดูมรสุม ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม-31 ตุลาคมของทุกปี เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามแผนแม่บทการจัดการพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน เนื่องจากที่ผ่านมา เกาะตาชัย กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ธรรมชาติเกิดความเสื่อมโทรม โดยการประชุมครั้งนี้มีเรื่องหลัก ๆ อยู่ 2-3 ประเด็น คือจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มมากขึ้นอาจเกิดความแออัดได้ เรื่องสถานที่รับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่ผ่านมา และเรื่องตารางเวลาของแต่ละบริษัทที่นำนักท่องเที่ยวลงบนเกาะสิมิลัน ก่อนจะมีการเปิดบริการใหม่อีกครั้งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
เกาะตาชัย

เกาะตาชัย

ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ที่มา:http://travel.kapook.com

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เตือนแกรนด์แคนยอนอีสาน รองรับคนจำนวนมากไม่ได้ หวั่นคันดินถล่ม

แกรนด์แคนย่อนอีสาน

          เตือนนักท่องเที่ยว ที่เข้าเยี่ยมชม แกรนด์แคนยอนอีสาน จ.อุบลราชธานี รองรับคนจำนวนมากไม่ได้ หวั่นคันดินถล่ม ห้ามลงเล่นน้ำเพราะน้ำลึก 3-4 เมตร คันดินแคบ-ไม่ควรใส่ส้นสูงเดิน

          หลังจากที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพบ่อน้ำสีฟ้าสดใส ในพื้นที่ บ้านหนองไหล ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเรียกกันว่า "แกรนด์แคนยอนอุบลฯ" ทำให้นักท่องเที่ยวต่างแห่กันไปชมให้เห็นด้วยตาตัวเอง นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านได้พากันนำสินค้าเข้าไปขายในบริเวณดังกล่าว ถือเป็นการสร้างรายได้ใช้ชาวบ้านในช่วงหน้าแล้ง

แกรนด์แคนย่อนอีสาน

แกรนด์แคนย่อนอีสาน

          และล่าสุด วันที่ 31 มีนาคม 2559 นายภานุภาค ภาคสีดา รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองขอน กล่าวว่า บึงดังกล่าวนั้น ชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า บึงแสนโคตร เมื่อหลายปีก่อนได้มีการขุดดินไปถมปรับที่ก่อสร้างอาคารศาลากลางหลังใหม่ และขุดไปถมที่ของราชการหลายแห่ง โดยบึงแห่งนี้มีความลึกเฉลี่ย 3-4 เมตร และจากการขุดดินออกไปหลายครั้งก็เปิดเป็นหลุมเว้นโค้ง คล้ายกับหุบเขาแกรนด์แคนยอนในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมนั้น ทาง อบต. ได้นำรถไถมาปรับพื้นดิน เพื่อทำเป็นที่จอดรถ และมีการติดป้ายเตือนนักท้องเที่ยวให้ระวังการเข้าชม เพราะรองรับคนจำนวนมากไม่ได้ หวั่นคันดินถล่ม ห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด เพราะน้ำมีความลึก และไหล่บ่อมีความลาดชัน ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ และจะทำให้น้ำขุ่น

          ทั้งนี้ นายภานุภาค ได้ย้ำว่า การมาเที่ยวชมแกรนด์แคนยอนอีสาน ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูง เพราะทางเดินแคบ และไม่ควรพาเด็กเล็กมาด้วย เพราะเสี่ยงตกลงไปในน้ำ สำหรับน้ำที่มีสีฟ้านั้น เกิดจากน้ำผุดขึ้นมาจากชั้นใต้ดิน และการทำที่กั้นกันตกลงไปในน้ำนั้น ยังไม่มีงบประมาณในการก่อสร้าง จึงได้ติดป้ายประกาศไว้ แต่ในอนาคตจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ออนซอนเดย์ลูกอีสาน อุบลราชธานี

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ที่มา:http://travel.kapook.com

ททท. กระตุ้นความคึกคักตลาดในประเทศ เปิดตัวกิจกรรม ไทยเที่ยวไทย

PUBLISHED DATE : 4 พฤษภาคม 2559
ททท. กระตุ้นความคึกคักตลาดในประเทศกับแคมเปญ “รวมใจเที่ยวไทย” พร้อมเปิดตัวกิจกรรม “ไทยเที่ยวไทย” ดึง “แจ๊ส ชวนชื่น” สร้างสีสัน ลุ้นรางวัลตอบแทนนักท่องเที่ยวทุกเดือน คาดว่าเงินสะพัดกว่า 4 หมื่นล้าน
          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ด้วยการเปิดตัวกิจกรรม “ไทยเที่ยวไทย” ภายใต้แคมเปญ “รวมใจเที่ยวไทย” เพื่อให้เกิดความคึกคักของบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยว กระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือน พฤษภาคม-กันยายน มุ่งเน้นการใช้จ่ายจริง โดยทุก 500 บาทในใบเสร็จเรื่องท่องเที่ยวไทย รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับรางวัลทุกเดือน
          ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. ได้สนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการให้การอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแกนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้รณรงค์แคมเปญ “รวมใจเที่ยวไทย” ซึ่งเป็นแคมเปญหลัก ครอบคลุมกิจกรรมทางการตลาดต่างๆที่ ททท. จะดำเนินการเพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางในประเทศ เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ รวมถึงการสร้างงานสร้างอาชีพในทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งในช่วง 5 เดือนสุดท้ายก่อนปิดปีงบประมาณ ททท. ได้จัดกิจกรรมใหญ่ คือ “ไทยเที่ยวไทย” เพื่อเร่งกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งแนวคิดในการรณรงค์แยกตามเดือนเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ลักษณะนิสัยการเดินทาง อายุ และแหล่งท่องเที่ยว คือ
               - เดือนพฤษภาคม สร้างกระแส “เที่ยวก่อนเปิดเทอม” เน้นกลุ่มเป้าหมายครอบครัวและเยาวชน โดยเปิดบูทประชาสัมพันธ์กิจกรรมไทยเที่ยวไทย ในงานส่งเสริมการขาย “วันธรรมดาน่าเที่ยว” และ “Outdoor Fest” เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันธรรมดาและให้ประชาชนร่วมกิจกรรมฯ ในวันที่ 12-14 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
               - เดือนมิถุนายน สร้างกระแส “เที่ยวชวนชิน อาหารถิ่นทั่วไทย” ให้คนไทยเดินทางไปชิมอาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อและต้องรับประทานเฉพาะที่เท่านั้น รวมถึงจัดงานเทศกาลอาหารไทยในภูมิภาคต่างๆของประเทศ
               - เดือนกรกฎาคมสร้างกระแส “เที่ยวตามรอยบุญ” เน้นกลุ่มผู้สูงอายุ และครอบครัวให้ออกเดินทางเพื่อไปทำบุญและร่วมงานบุญเทศกาลเข้าพรรษา
               - เดือนสิงหาคม สร้างกระแส “สิงหาพาแม่เที่ยว” เน้นกลุ่มครอบครัวและสตรี นอกจากจะกระตุ้นลูกๆ พาแม่เที่ยวไทยแล้ว ยังกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มผู้หญิงตามโครงการ “Women’s Journey” อีกด้วย
               - เดือนกันยายน สร้างกระแส “รุ่นใหญ่เที่ยวไทย” เน้นกลุ่มผู้สูงอายุและหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ จัดการเดินทางท่องเที่ยวให้แก่ผู้ที่จะเกษียณอายุ
          ไม่เพียงแต่การกำหนดแนวคิดในการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละเดือนเท่านั้น ททท. ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายจริง ผ่าน 2 ช่องทางที่ประชาชนสามารถร่วมกิจกรรมได้ง่ายๆ คือ
          1. ร่วมลุ้นรางวัลผ่าน Line Application ด้วยการเพิ่มเพื่อน (add friend) “ไทยเที่ยวไทย” จากการค้นหา ID: @thaitiewthai หรือเพิ่มเพื่อนโดยการสแกน QR Code ของกิจกรรมผ่าน QR Code Reader ในเว็บไซต์www.ThailandHero.com จากนั้นลงทะเบียนตามขั้นตอนที่ปรากฎ โดยสามรถลงทะเบียนได้2 แบบ คือเลือกลงทะเบียนโดยการถ่ายภาพใบเสร็จรับเงินร่วมกับบัตรประชาชน ซึ่งต้องเป็นใบเสร็จรับเงินจากการซื้อบริการทางการท่องเที่ยวในประเทศจากบริษัทที่มีการจดทะเบียนการค้ากับกระทรวงพาณิชย์และมีมูลค่า 500 บาท ขึ้นไป โดยทุกๆ 500 บาท จะได้รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรางวัลและสามารถส่งใบเสร็จได้ไม่จำกัดจำนวน หรือลงทะเบียนด้วยการ Check-in โดยการถ่ายภาพด้วยกล้องใน Line “ไทยเที่ยวไทย” หรือ อัพโหลดภาพที่ถ่ายจากกล้องอื่นๆ ซึ่งต้องเป็นภาพที่ผู้ลงทะเบียนถ่ายภาพกับสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือสินค้าชุมชน ในช่วง 5 เดือนที่จัดกิจกรรม ทุกๆ 3 ภาพที่อัพโหลด จะได้รับ 1 สิทธิ์ ทั้งนี้สามารถเพิ่มสิทธิ์การลุ้นรางวัลเป็น 2 เท่าหากส่งภาพตามแนวการประชาสัมพันธ์ในในแต่ละเดือนและส่งในเดือนนั้นๆ ได้แก่
              - ในเดือนพฤษภาคม 2559 ส่งภาพใบเสร็จรับเงินจากการซื้อบริการทางการท่องเที่ยวในงานวันธรรมดาน่าเที่ยว และ Outdoor Fest ที่จัดในวันที่ 12-14 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
              - ในเดือนมิถุนายน 2559 ส่งภาพถ่ายอาหารท้องถิ่นตามที่ ททท. จะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป
              - ในเดือนกรกฎาคม 2559 ส่งภาพที่ถ่ายในวัดหรืองานประเพณี
              - ในเดือนสิงหาคม 2559 ส่งภาพถ่ายที่เดินทางไปท่องเที่ยวกับแม่หรือกับลูก และ
              - ในเดือนกันยายน 2559 ภาพที่ส่งจากผู้ร่วมกิจกรรมที่อายุ 55 ปีขึ้นไป
          อีกทั้ง ภาพที่ส่งร่วมกิจกรรม หากเป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม โปรแกรมท่องเที่ยว ที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ก็จะได้รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลเป็น 2 เท่าด้วย รวมทั้ง ผู้ที่ร่วมกิจกรรมหากเป็นลูกค้าของ AIS หากส่งภาพในสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมน้องอุ่นใจ หรือลูกค้ารถยนต์โตโยต้า ก็ได้สิทธิ์เป็น 2 เท่าเช่นกัน
          2. ร่วมลุ้นรางวัลผ่าน www.ThailandHero.com ซึ่งมีขั้นตอนการลงทะเบียนเหมือนกับการลงทะเบียนผ่าน Line Application โดยมีคำอธิบายการร่วมลุ้นรางวัลอย่างชัดเจน
          นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนและร่วมสนุกได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2559 รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล “ทุนท่องเที่ยว” ทุกเดือน เดือนละ 1.4 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ แท็บเล็ต บัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางในประเทศ จักรยาน เป็นต้น มูลค่าเดือนละ 2.5 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 12.5 ล้านบาท โดยจับรางวัลในวันที่ 5 และประกาศรางวัลในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป ในกรณีที่จับรางวัลแต่ละเดือนไปแล้ว จะไม่สะสมสิทธิ์ในการจับรางวัลในเดือนที่เหลือ ทั้งนี้ กิจกรรม “ไทยเที่ยวไทย” ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สายการบินบางกอกแอร์เวย์ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิล บมจ. การบินไทย บริษัท ทีซี ควิก จำกัด บริษัท ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และผู้ประกอบการ 
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม กติกา และเงื่อนไขการร่วมกิจกรรมได้ที่ www.thailandhero.com

ที่มา:http://thai.tourismthailand.org

สั่งปิดเกาะตาชัย ฟื้นฟูปะการัง-ชายหาดแบบไม่มีกำหนด คาด สูงสุด 2 ปี

เกาะตาชัย

          สั่งปิดเกาะตาชัย ฟื้นฟูปะการัง-ชายหาดแบบไม่มีกำหนด คาด สูงสุด 2 ปี หลังมีผลการศึกษาบ่งชี้ แต่กิจกรรมดำน้ำลึก ยังเปิดให้เข้าเที่ยวได้

          เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2559 นายณัฐพล รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงนามปิดการท่องเที่ยวเกาะตาชัย ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา แล้ว บริเวณชายหาดและแนวปะการังน้ำตื้น โดยเป็นการปิดไม่มีกำหนด

          ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ปิดแบบไม่มีกำหนดเพราะว่ามีผลการศึกษาทางวิชาการที่ระบุถึงความ เสื่อมโทรมของชายหาดและปะการังรอบเกาะ ดังนั้น จึงมีข้อเสนอปิดเพื่อให้ฟื้นตัว เบื้องต้นปิดขั้นต่ำ 1 ปี แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องปิด 2 ปี จนกว่าธรรมชาติจะฟื้นตัวกลับมา อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดำน้ำลึกยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวได้

          นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ ยังมีการปิดการท่องเที่ยวเกาะยูงในเขตอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ด้วย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ที่มา:http://travel.kapook.com

ประกาศปิดเส้นทางเข้าน้ำตกทีลอซู จ.ตาก ช่วงฤดูฝน 1 มิ.ย.-31 ต.ค.

ประกาศปิดเส้นทางเข้าน้ำตกทีลอซู จ.ตาก ช่วงฤดูฝน 1 มิ.ย.-31 ต.ค.

          ตากปิดเส้นทางเข้าน้ำตกทีลอซู ช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน-31 ตุลาคม เตรียมเปิดใหม่ 1 พฤศจิกายน 2559


          วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก แจ้งว่า ในช่วงฤดูฝนของทุก ๆ ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 ตุลาคม จะมีการปิดเส้นทางเข้าน้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก โดยปิดเส้นทางการเดินทางโดยรถยนต์และยานพาหนะ จากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงขนถึงบริเวณน้ำตกทีลอซู ระยะทาง 25 กิโลเมตร เป็นเวลา 5 เดือน 

          โดยจังหวัดได้รับการประสานจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาสัมพันธ์กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบถึงการปิดเส้นทางดังกล่าว เนื่องจากเป็นฤดูฝน มีฝนตกชุกมากส่งผลให้การเข้า-ออกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้ยานพาหนะขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และหากมีการอนุญาตให้ยานพาหนะเข้า-ออกน้ำตกทีลอซูต่อไป จะส่งผลเกิดความเสียหายแก่เส้นทางในการส่งกำลังบำรุง และลาดตระเวนตรวจปราบปรามดูแลรักษาพื้นที่ป่าไม้ อีกทั้งเพื่อให้สภาพป่าทั้งสองข้างทางไม่ถูกรบกวน เป็นการพักฟื้นผืนป่า ให้สัตว์ป่าได้ผสมพันธุ์ รวมทั้งเป็นการฟื้นตัวเป็นแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย หลบภัย และขยายพันธุ์ของสัตว์ป่าธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางและน้ำตกทีลอซู

          ทั้งนี้จะมีการเปิดเส้นทางอีกครั้ง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงการท่องเที่ยวไฮซีซั่น ปลายฝนต้นหนาว ซึ่งจะมีประชาชน เข้าไปท่องเที่ยวจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นเดือนละหลายสิบล้านบาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างมาก
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
ที่มา:http://travel.kapook.com

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง ความสนุกบนสายน้ำที่ห้ามพลาด

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

          ล่องแก่งหนานมดแดง ที่เที่ยวผจญภัยสุดฮิตของจังหวัดพัทลุง ไปเที่ยวพัทลุงต้องไม่พลาดไปล่องแก่งหนานมดแดง สนุกสุดมันส์บนสายน้ำสุดเย็นฉ่ำ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี สนุกสนานได้ทั้งครอบครัว 
          จังหวัดพัทลุง เป็นอีกหนึ่งจังหวัดของภาคใต้ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมให้เราได้ไปสัมผัสมากมาย ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในจังหวัดพัทลุงนี่เองที่ก่อเกิดสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการล่องแก่ง โดยเฉพาะในท้องที่ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม ที่คนทั่วไปมักจะรู้จักกันในชื่อ ล่องแก่งหนานมดแดง



          การล่องแก่งหนานมดแดง ก่อเกิดจากการที่ คุณโยธิน เขาไข่แก้ว ได้บุกเบิกนำร่องให้กับชาวบ้านในชุมชนได้เริ่มกิจกรรมการล่องแก่งขึ้น เพราะในพื้นที่ตำบลลานข่อยนั้นมีห้วยน้ำใส ซึ่งไหลมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส โดยจะมีแก่งหินขวางลำน้ำในบางจุด ประกอบกับน้ำในอ่างเก็บน้ำจะถูกปล่อยมาตลอดทั้งปี จึงทำให้เหมาะแก่การจัดทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อล่องแก่ง 

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง
อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส

          เริ่มแรกนั้นมีเพียงคุณโยธินเท่านั้นเป็นผู้ประกอบการจัดพาทัวร์ล่องแก่ง โดยคุณโยธินใช้ชื่อว่าล่องแก่งหนานมดแดง และด้วยความสนุกสนานและปลอดภัยของการล่องแก่งหนานมดแดง ทำให้มีคนรู้จักมากยิ่งขึ้น มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวมากมาย จึงเกิดรีสอร์ทอื่น ๆ ซึ่งเป็นของชาวบ้านในพื้นที่อีกประมาณ 10 กว่ารีสอร์ท

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

          โดยชาวบ้านก็จะใช้ชื่อเรียกต่าง ๆ กันไป อาทิ ล่องแก่งหนานท่าส้าน, ล่องแก่งชมดาว เป็นต้น ซึ่งจะนำเที่ยวล่องแก่งในห้วยน้ำใสที่เดียวกัน แต่นักท่องเที่ยวและคนทั่วไปก็ยังเรียกกันติดปากว่าการล่องแก่งหนานมดแดง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

          ความสนุกของการล่องแก่งที่นี่จะอยู่ที่ความแรงของกระแสน้ำ และเกาะแก่งหินตามจุดต่าง ๆ ที่ขวางลำน้ำ ซึ่งระดับความยากของการล่องแก่งจะอยู่ที่ระดับ 2-3 (ไม่อันตรายมากนัก) ทำให้สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว ตั้งแต่อายุ 5 ปีขึ้นไปก็สามารถเล่นได้ 

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง
          การล่องแก่งหนานมดแดงมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 5-6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะน้ำจะมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส ซึ่งสามารถบังคับให้น้ำไหลมากน้อยได้ และไม่มีอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก อีกทั้งแต่ละรีสอร์ทจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ใครพายเรือคายักไม่เป็นก็จะมีเจ้าหน้าที่พายให้ 

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

          หากนักท่องเที่ยวมาจากจังหวัดอื่น ๆ ในตำบลลานข่อยก็มีที่พักหลายแห่งเปิดให้บริการ มีร้านอาหาร ร้านค้าครบครัน พร้อมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอีกหลายแห่ง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

          สำหรับค่าบริการล่องแก่งหนานมดแดงนั้น จะอยู่ที่ประมาณคนละ 200 บาท มีอุปกรณ์ทั้งเสื้อชูชีพ หมวกกันน็อกให้พร้อม คนที่พายเรือไม่เป็นก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปพายให้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง
​สไลเดอร์ยาว 111 เมตร ภายในล่องแก่งหนานมดแดงรีสอร์ท 

          สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้จากการมาเที่ยวที่นี่ ไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุกสนานของการล่องแก่งเท่านั้น แต่ที่นี่ยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความอบอุ่น เพราะผู้ประกอบกิจการคือคนในพื้นที่ เป็นชาวบ้านในท้องถิ่น ซึ่งช่วยกันทำมาหากิน ช่วยกันบริการ ทำให้ก่อเกิดทั้งมิตรภาพระหว่างพนักงานและผู้ประกอบการกันเอง รวมทั้งนักท่องเที่ยว และยังสร้างรายได้ให้กับชุมชน สร้างพลังที่แข็งแกร่งให้กับบ้านเกิดของตนเองได้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง

          ใครที่อยากสัมผัสกับการล่องแก่งสุดสนุกแบบนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ (สงขลา-พัทลุง) โทรศัพท์ 0 7424 3747

ขอขอบคุณกองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ที่มา:http://travel.kapook.com