วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

9 ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ หนีร้อนไปนอนชิลให้หนำใจ

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ

          ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ จังหวัดเพชรบุรี บรรยากาศชิล มีกิจกรรมสนุก ๆ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการคลายร้อน เพื่อพบกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง


          ร้อน ๆ แบบนี้จะมีอะไรดีกว่าเวลาที่เราไปเที่ยวแล้วได้นอนพักที่พักริมน้ำ บรรยากาศดี ๆ สักคืนสองคืน ซึ่งที่แก่งกระจาน สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของจังหวัดเพชรบุรี ก็มีที่พักแก่งกระจานติดน้ำอยู่มากมาย แน่นอนว่าบรรยากาศแต่ละที่เข้าขั้นจัดว่าดีเลิศ เพราะอยู่ท่ามกลางการโอบล้อมของหมู่แมกไม้ธรรมชาติตลอดสายธารลำน้ำเพชรบุรี แถมยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวสนุก ๆ ให้ทำแก้เหงาอีกเพียบ ทั้งดีและเด็ดแบบนี้เราจึงไม่พลาดแนะนำที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
มาฝากเพื่อน ๆ กัน แต่จะมีที่ไหนบ้างนั้น เริ่มกันที่…
1. ณัฐพลรีสอร์ท
ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก nattaponresort.com

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก nattaponresort.com

          ที่พักที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความสุขและความสนุกสนานอย่างเต็มรูปแบบ ให้บริการห้องพักเป็นหลัง ๆ ที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน ทั้งเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรทัศน์ รวมถึงยังมีพื้นที่หน้าบ้านที่คุณสามารถมองเห็นแม่น้ำเพชรบุรีอย่างชัดเจน ลองถ้าใครได้มองไปเมื่อใด ก็จะรู้สึกได้ถึงความสดชื่นขึ้นทันที ที่นี่ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวสนุก ๆ อย่างการล่องแก่ง ที่รับรองความมันส์และความสนุก ขณะเดียวกันยังได้ชื่นชมแมกไม้ธรรมชาติสองข้างทาง หรือระหว่างทางยังสามารถแวะพักเหนื่อย และทานอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ อย่างแกงส้ม ต้มยำ ส้มตำ ไก่ย่าง หลังจากนั้นจะลงเล่นน้ำให้ฉ่ำปอดก็ไม่ว่ากัน เหล่านี้เป็นรูปแบบการพักผ่อนที่คุณจะพบได้ที่ณัฐพลรีสอร์ทที่เดียวเท่านั้น

          ที่อยู่ : 530 หมู่ 13 เขื่อนแก่งกระจาน ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 081 856 9918
          เว็บไซต์ : nattaponresort.com


2. บ้านสวน ริเวอร์ รีสอร์ท
ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก kaengkrachanbansoun.com

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก kaengkrachanbansoun.com

          ที่พักติดแม่น้ำเพชรบุรีท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของแมกไม้นานาชนิด เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนช่วงวันหยุด พิเศษกับการให้บริการรูปแบบบ้านพักที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการทุกกลุ่มลูกค้า ทั้งแบบส่วนตัวและหมู่คณะ รองรับจำนวนผู้มาเข้าพักตั้งแต่ 2 คนไปจนถึง 30 คน พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น โทรทัศน์ เป็นต้น โดดเด่นด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมากมายหลากหลาย เช่น สวนน้ำและสไลเดอร์ ขี่ม้า ล่องแก่ง ขี่รถ ATV ยิงปืน BB Gun กระโดดหอ เที่ยวเขาพะเนินทุ่ง ดูนก ชมผีเสื้อ (บ้านกร่าง) เที่ยวชมโครงการ ชั่งหัวมัน เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่ทางที่พักตั้งใจสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคุณตลอดช่วงเวลาที่พักอยู่ที่นี่

          ที่อยู่ : 225/2 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 081 190 4809, 081 274 5389
          เว็บไซต์ : kaengkrachanbansoun.com

3. แก่งกระจาน ริเวอร์ รีสอร์ท
ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ

          ที่พักบรรยากาศสบาย ๆ ติดลำน้ำเพชรบุรี รายล้อมไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ที่กระจายตัวคอยให้ร่มเงา ให้บริการบ้านพักบ้านชั้นเดียวเป็นหลัง ๆ ด้วยเพราะคำนึงถึงหลักความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าพักอาศัยของลูกค้า ความพิเศษของที่พักแห่งนี้ยังอยู่ที่ผู้เข้าพักสามารถลงเล่นน้ำทั้งด้านในและด้านนอกบริเวณที่พัก ซึ่งบรรยากาศก็จะแตกต่างกัน ใครชอบหรือถนัดแบบไหนก็เลือกเอาได้เลย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น หอสลิงกระโดดน้ำ สนามมวยทะเล นั่งเรือชมวิวรอบเขื่อนแก่งกระจาน ขี่รถ ATV ชมผีเสื้อบ้านกร่าง เป็นต้น เหล่านี้เป็นการบริการจากทางที่พัก ที่ทำให้คุณรู้สึกประทับใจกับวันพักผ่อนของคุณอย่างสบายใจ

          ที่อยู่ : 491 หมู่ 13 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 081 255 2006, 093 328 3928
          เว็บไซต์ : kaengresort.com และ เฟซบุ๊ก แก่งกระจาน ริเวอร์ รีสอร์ท เพชรบุรี

4. Worawee Resort & Spa
          ที่พักใกล้เขื่อนแก่งกระจาน ติดลำน้ำเพชรบุรี ด้วยรูปแบบที่พักที่ได้รับการออกแบบอย่างทันสมัยในสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาว แลดูโล่ง โปร่ง และสบายตา รับประกันได้ว่าถ้าใครเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ต้องได้รับความสนุกและความสุขกลับไปทุกคน ทั้งนี้ที่พักแห่งนี้ยังมีหน้าน้ำกว้างที่สุดในแก่งกระจานเป็นระยะทางถึง 300 เมตร จึงทำให้ทุกห้องพัก สามารถมองเห็นลำน้ำเพชรบุรีได้ชัดถนัดตา มีสะพานให้เดินเล่นและนั่งเล่นแบบชิล ๆ ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุด ๆ และยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งภายในและนอกที่พักแบบจัดหนักจัดเต็ม ทั้งเล่นน้ำ ว่ายน้ำ เดินเล่นเก็บผลไม้ในสวน เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งที่พักที่จะช่วยให้คุณได้รับช่วงเวลาดี ๆ ตลอดทริปการเดินทาง

          ที่อยู่ : 188 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 081 904 4433
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Worawee Resort & Spa และ woraweeresort.com

5. Kaengkrachan Boathouse Paradise Resort

          ที่พักติดริมน้ำเขื่อนแก่งกระจาน โดดเด่นด้วยลักษณะที่พักแบบบ้านเรือย้อนยุค ที่ได้รับการออกแบบไม่ซ้ำใคร และเชื่อแน่ว่ามีที่เดียวในแก่งกระจาน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าพักทุกคนได้สัมผัสวิถีชีวิตไทย ๆ แบบย้อนยุค ตัวอาคารที่พักเผยให้เห็นโครงสร้างที่ทำจากไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น และให้บริการห้องพักหลากหลายรูปแบบ รวมถึงบรรยากาศโดยรอบที่พัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสระว่ายน้ำสวยวิวทะเลสาบ ว่ายน้ำไปรับชมวิวสวย ๆ แบบเพลินตา หรือจะลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ จากภัตตาคารคุ้งน้ำ รับรองว่าอิ่มทั้งท้องและบรรยากาศแบบจุใจ เชื่อแน่ว่า Kaengkrachan Boathouse Paradise Resort จะนำเสนอประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบการพักผ่อนในสไตล์ Outdoor แน่นอน

          ที่อยู่ : 309 หมู่ 2 ซอยวังวน 5 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 032 706 022, 098 787 9787, 081 908 5665
          เว็บไซต์ : boathouseparadise.com และ เฟซบุ๊ก Kaengkrachan Boathouse Paradise Resort – ที่พักแก่งกระจาน
6. Nana Resort & Spa


          ที่พักแสนสวยติดริมน้ำเพชรบุรี ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนแก่งกระจาน และสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ หลายคนอดประทับใจในการดีไซน์ออกแบบที่ลงตัวของที่พักแห่งนี้ไม่ได้ สังเกตได้จากทุกตารางพื้นที่ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจและความตั้งใจในทุกรายละเอียดการตกแต่ง เน้นการให้บริการห้องพักที่สะดวกสบาย น่าอยู่ ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ ทุกเช้าที่คุณตื่นนอนคุณจะได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง มีสระว่ายน้ำส่วนกลางให้ได้ลงเล่น แต่ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศซึมซับกับธรรมชาติก็สามารถลงเล่นน้ำในแม่น้ำได้เช่นกัน ทั้งนี้มีกิจกรรมท่องเที่ยวมากมายรอต้อนรับคุณให้ได้ร่วมสนุกอีกเพียบ รับรองว่ามาพักที่นี่คุณแทบจะไม่รู้จักคำว่าเหงาเลยทีเดียว

          ที่อยู่ : 139 หมู่ 13 อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 086 325 7712-3, 032 459 277
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Nana Resort & Spa Phetchaburi และ nanaresortandspa.com

7. สวนอิงธารรีสอร์ท แก่งกระจาน

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก suaningthanresort.com

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก suaningthanresort.com

          ที่พักบรรยากาศสบาย ๆ เป็นกันเอง ใกล้แม่น้ำเพชรบุรี ร่มรื่นด้วยแมกไม้น้อยใหญ่นานาชนิดที่คอยสร้างร่มเงา แถมยังช่วยบรรเทาความร้อนจากอากาศได้มากทีเดียว โดดเด่นด้วยการให้บริการบ้านพักส่วนตัว ที่สามารถรองรับจำนวนผู้เข้าพักได้ถึง 20-25 คน ทั้งแบบส่วนตัว หมู่คณะ หรือครอบครัว ท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติและขุนเขา พลาดไม่ได้ที่จะสนุกไปกับกิจกรรมท่องเที่ยวมากมาย ทั้งล่องเรือยาง ขี่รถ ATV นั่งเรือชมเขื่อนแก่งกระจาน ยิงปืน BB Gun ทั้งหมดที่คุณจะได้รับจากการเข้าพักที่นี่ จะช่วยทำให้คุณซึ้งเลยว่าการพักผ่อนที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร

          ที่อยู่ : 475/1 หมู่ 13 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 084 909 3322, 081 372 5017, 087 066 6223
          เว็บไซต์ : suaningthanresort.com และ เฟซบุ๊ก แก่งกระจาน สวนอิงธารรีสอร์ท


8. ธนูริเวอร์ รีสอร์ท

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก thanuresort.net

ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ภาพจาก thanuresort.net

          ที่พักท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติติดริมน้ำเพชรบุรี ให้บริการห้องพักหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบธรรมดาและ VIP โดดเด่นด้วยกิจกรรมจากทางที่พักต่าง ๆ ทั้งการเล่นน้ำ มวยทะเล โหนสลิง บอลลูนน้ำ สไลเดอร์ พายเรือคายัก ขี่รถ ATV เหล่านี้เป็นกิจกรรมที่คอยสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ น่าจะถูกอกถูกใจเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยอยู่ไม่น้อย พลาดไม่ได้กับการพิสูจน์ความอร่อยจากเมนูอาหารขึ้นชื่อ เช่น แกงส้มปลาช่อน แป๊ะซะผักกูด ยำปลาดุกฟู ทอดมันปลากราย หรือจะเป็นปลาแรดทอด ปลานิลสามรส เป็นต้น ใครได้ตักเข้าปากเป็นต้องติดใจตักเข้าปากอยู่เรื่อย เผลออีกทีอาจซดหมดชามแบบไม่รู้ตัว ใครรู้ตัวว่าชอบแนวการพักผ่อนแบบธรรมชาติ เราแนะนำให้คุณมานอนค้างที่นี่สักคืนสองคืน รับรองว่าติดใจ

          ที่อยู่ : 375 หมู่ 13 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 081 944 6571, 032 459 337
          เว็บไซต์ : thanuresort.net


9. น้ำอุ่นน้ำใสรีสอร์ท แก่งกระจาน
ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
ที่พักแก่งกระจานติดน้ำ
          ที่พักบรรยากาศดีติดริมน้ำเพชรบุรี ท่ามกลางแมกไม้เขียวชอุ่ม และการบริการที่เป็นกันเอง แถมห้องพักยังออกแบบได้อย่างน่ารักลงตัว เหมาะสำหรับวันพักผ่อนสบาย ๆ กับครอบครัวหรือหมู่คณะ ภายในห้องพักพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันทันสมัย พลาดไม่ได้กับกิจกรรมท่องเที่ยวที่จัดไว้รองรับผู้มาเข้าพักทุกคน อย่างการล่องเรือยาง พายเรือ สไลเดอร์ นับเป็นกิจกรรมที่ช่วยบรรเทาความร้อนจากร่างกายได้อย่างง่าย ๆ แถมยังได้รับความสนุกไปด้วยในตัว "น้ำอุ่นน้ำใสรีสอร์ท" แก่งกระจาน น่าจะเป็นอีกหนึ่งที่พักสบาย ๆ ที่เรียกรอยยิ้มและความสุข จนคุณติดใจกลับมาใช้บริการที่นี่อีกครั้ง

          ที่อยู่ : 127 หมู่ 1 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
          เบอร์โทรศัพท์ : 092 364 0099, 089 184 4188
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก น้ำอุ่นน้ำใสรีสอร์ท แก่งกระจาน


          เป็นยังไงบ้างคะ ? มีเพื่อน ๆ คนไหนแอบเล็งที่พักแก่งกระจานติดน้ำที่เราเอามาฝากกันบ้างหรือยัง บอกเลยว่าแต่ละที่นอกจากนอนสบายคลายร้อนแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ได้ทำอีกเพียบ จะเป็นยังไงถ้าหน้าร้อนหนนี้ได้เอาตัวไปแช่น้ำเย็น ๆ ท่ามกลางธรรมชาติรอบลำน้ำเพชรบุรีแบบนี้ดูสักหนหนึ่ง ไม่แน่ว่าหน้าร้อนคราวหน้า อาจติดใจแวะกลับมาใช้บริการอีกหนก็ไม่ว่ากันนะคะ

          หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 28 เมษายน 2559

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
nattaponresort.comkaengkrachanbansoun.comเฟซบุ๊ก แก่งกระจาน ริเวอร์ รีสอร์ท เพชรบุรี,kaengresort.comเฟซบุ๊ก Worawee Resort & Spaworaweeresort.comเฟซบุ๊ก Kaengkrachan Boathouse Paradise Resort – ที่พักแก่งกระจานboathouseparadise.com
เฟซบุ๊ก Nana Resort & Spa Phetchaburinanaresortandspa.comเฟซบุ๊ก แก่งกระจาน สวนอิงธารรีสอร์ทsuaningthanresort.comthanuresort.netเฟซบุ๊ก น้ำอุ่นน้ำใสรีสอร์ท แก่งกระจาน


ที่มา:http://travel.kapook.com

เที่ยวอุบลราชธานี 1 วัน มหัศจรรย์สามพันโบกและหาดชมดาว

เที่ยวอุบลราชธานี

          ไปเที่ยวสามพันโบก หาดชมดาว ที่เที่ยวอุบลราชธานีในหน้าร้อนสุดฮิตได้ง่าย ๆ ภายในวันเดียว ใครอยากไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติกลางลำน้ำโขง ต้องไม่พลาดไปเยือน
สามพันโบกและหาดชมดาว
          จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ มีธรรมชาติหลากหลายให้ได้ไปค้นหา โดยเฉพาะหน้าร้อน น้ำในแม่น้ำลำคลองต่างตื้นเขิน แม้แต่ในลำน้ำโขงสายน้ำก็ค่อย ๆ ลดปริมาณต่ำลงเรื่อย ๆ จนทำให้สิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ตลอดทั้งปี โผล่พ้นสายน้ำตั้งอย่างโดดเด่นอยู่กลางแม่น้ำโขง ซึ่งเรารู้จักกันดีในนาม "สามพันโบก" และที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เอี่ยมของอุบลฯ นั่นก็คือ "หาดชมดาว" ซึ่งทั้งสองแห่งนี้สามารถไปเที่ยวได้ง่าย ๆ ภายใน 1 วัน เพราะปัจจุบันมีหลายสายการบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังอุบลราชธานีทุกวัน การไปสัมผัสกับดินแดนอีสานมหาสนุกจึงกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ไปแล้ว


เที่ยวอุบลราชธานี

          ความสวยงามของทั้งสามพันโบกและหาดชมดาว ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยี่ยมชมตลอดในช่วงหน้าร้อน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยไปเยือนอุบลราชธานี มักจะเกิดข้อสงสัยว่าสามารถเที่ยวทั้งสองที่ได้ภายในวันเดียวหรือไม่ บอกเลยค่ะว่า "ได้" สบายมาก ๆ เพราะสามพันโบกตั้งอยู่ในอำเภอโพธิ์ไทร ส่วนหาดชมดาวตั้งอยู่ในอำเภอนาตาล ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเพียงแค่ 30-40 นาทีเท่านั้น 

          สำหรับการเที่ยวชมสามพันโบกและหาดชมดาว นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเลือกเดินทางไปเที่ยวหาดชมดาวในช่วงเช้า แล้วค่อยไปสามพันโบกในช่วงบ่าย หรือจะสลับกันก็ได้ตามแต่จะสะดวก ซึ่งในทริปนี้คณะของเราเลือกที่จะไปหาดชมดาวในช่วงเช้าและไปชมสามพันโบกในช่วงบ่ายค่ะ 

เที่ยวอุบลราชธานี

          การเที่ยวชมหาดชมดาว นักท่องเที่ยวต้องนำรถส่วนตัวจอดไว้ที่ลานจอดรถที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ และนั่งรถของเจ้าหน้าที่ลงไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ 

เที่ยวอุบลราชธานี

          จุดท่องเที่ยวในหาดชมดาวมีทั้งหมด 11 จุดด้วยกัน ดังนี้
 
          ● 1. ถ้ำตาอ้วน
          ● 2. ถ้ำตามา
          ● 3. ก้อนสามเส้า
          ● 4. ช่องสาวโศก
          ● 5. แกรนด์แคนยอนนาตาล
          ● 6. ประติมากรรมลำน้ำโขง
          ● 7. แก่งหินงามหรือหินชมนภา, ผาวัดใจ, ผาเดียวดาย 
          ● 8. ช่องเบียดสาว 
          ● 9. แอ่งม้าคอย
          ● 10. ช่องแคบสองฝั่งโขง
          ● 11. หาดชมดาวหรือหาดทรายขาว

เที่ยวอุบลราชธานี

เที่ยวอุบลราชธานี

          บรรยากาศยามเช้าที่หาดชมดาว 

เที่ยวอุบลราชธานี

เที่ยวอุบลราชธานี

เที่ยวอุบลราชธานี

          แก่งหินงาม ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันไป 

เที่ยวอุบลราชธานี

          ที่หาดชมดาวมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เพียบ

เที่ยวอุบลราชธานี

เที่ยวอุบลราชธานี

          บริเวณริมแม่น้ำโขงที่หาดชมดาว ยามเช้าจะมีชาวบ้านเดินตามแก่งหินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ จนถึงแม่น้ำเพื่อหาปลา 

เที่ยวอุบลราชธานี

          หาดชมดาว ก็มีหาดทรายกว้างใหญ่สวยงาม 

          ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหาดชมดาวได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาตาล โทรศัพท์ 0 4530 5086, 08 9844 4681 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0 4524 3770, 0 4525 0714 

เที่ยวอุบลราชธานี

          ส่วนการเที่ยวชมสามพันโบกนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนำรถไปจอดยังลานจอดรถที่อยู่บริเวณทางเดินลงไปชมสามพันโบกได้ แต่ถ้าใครต้องการที่จะสัมผัสกับความงดงามของลำน้ำโขงให้เต็มอิ่ม เราขอแนะนำให้นั่งเรือหางยาวไปชมสามพันโบกค่ะ เพราะจะได้แวะเที่ยวชมจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ตามแม่น้ำโขง 

เที่ยวอุบลราชธานี

          จุดขึ้นเรือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะอยู่ที่หาดสลึง บ้านสองคอน ตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร

เที่ยวอุบลราชธานี

เที่ยวอุบลราชธานี

          สองฟากฝั่งริมแม่น้ำโขงจะเห็นแก่งหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมา มีลวดลายหินที่สวยงาม แซมไปด้วยต้นไม้สีเขียว ชมวิวเพลิน ๆ กับสายลมเย็น ๆ :) 

เที่ยวอุบลราชธานี

          ระหว่างทางไปหาดหงส์เราจะเห็นแก่งหินริมแม่น้ำโขง มีการสลักเลขไว้บนหิน เพื่อบ่งบอกระดับน้ำในแต่ละปี เรียกจุดนี้ว่าศิลาเลข

เที่ยวอุบลราชธานี

          หาดหงส์ เป็นหาดทรายกว้างใหญ่ใกล้กับสามพันโบก เรือจะพานักท่องเที่ยวไปชมความสวยงามของหาดหงส์ก่อนที่จะไปสามพันโบกค่ะ 

เที่ยวอุบลราชธานี
เที่ยวอุบลราชธานี

          เด็ก ๆ จะชอบมาเล่นสไลเดอร์และกระโดดบนหาดทรายนุ่ม ๆ :) 

เที่ยวอุบลราชธานี

          หลังจากไปเยือนหาดหงส์ เรือก็จะแล่นมาจอดที่สามพันโบก แล้วให้นักท่องเที่ยวเดินเที่ยวชมได้ตามแต่จะสะดวก ด้านบนจะมีชาวบ้านคอยแนะนำจุดสำคัญให้นักท่องเที่ยวเป็นระยะ 

เที่ยวอุบลราชธานี

          โบก (หลุม) รูปมิกกี้เม้าส์ จุดถ่ายรูปห้ามพลาดของสามพันโบก 

เที่ยวอุบลราชธานี

          ความยิ่งใหญ่ของสามพันโบก 

เที่ยวอุบลราชธานี

          การเที่ยวชมสามพันโบกด้วยเรือควรไปถึงท่าเรือก่อน 15.00 น. เพราะช่วงเย็นกระแสน้ำจะแรง ซึ่งไม่สามารถที่จะขับเรือในลำน้ำโขงได้ 

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสามพันโบกและหาดชมดาวได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0 4524 3770, 0 4525 0714 

ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ที่มา:http://travel.kapook.com

แบกเป้ นั่งรถไฟ โบกรถตะลุยเนินมะปราง ดินแดนสวรรค์

เนินมะปราง

          เนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเล็ก ๆ ที่ธรรมชาติไม่เล็กตาม เป็นเหมือนดินแดนสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

          เนินมะปราง อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โอบล้อมด้วยธรรมชาติแห่งขุนเขาที่เขียวชอุ่ม สูงตระหง่านเป็นที่เตะตาต้องใจ เหล่านี้ถือเป็นเอกลักษณ์ที่ยั่วยวนให้นักท่องเที่ยวต่างอยากมาสัมผัสให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน เหมือนกับที่นิตยสาร Weekend ฉบับเดือนพฤษภาคม 2016 ได้ถ่ายทอดความสวยงามของเนินมะปรางมาให้เราได้ดูกัน คุณจะรู้เลยว่าที่นี่ยังคงเป็นอาณาเขตพื้นที่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวอันซีนซ่อนตัวอยู่มากมาย ลองถ้าใครได้ไปเที่ยวที่เนินมะปรางแล้วไม่มีทางที่คุณจะไม่ตกหลุมรักอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมที่จะตกหลุมรักแล้วละก็ เราไปเที่ยวเนินมะปรางพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

Story & Photo : Vipawan Rattanajittamrongkul / FB : WA'wow AF'now
           เขาเล่าว่า...เมืองไทยมีดินแดนสวรรค์แห่งความสงบซ่อนอยู่ เราจึงพาทุกคนไปเยือนเมืองสวรรค์เล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดพิษณุโลก นั่นก็คือ "อำเภอเนินมะปราง"


           ทริปนี้เราร่วมเดินทางกับเพื่อนสาวหนึ่งคน โดยมีวิธีการเดินทางหลัก ๆ คือนั่งรถไฟ-รถสองแถว-รถโดยสาร-รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และวิถีที่สายแบ็คแพ็กเกอร์ไม่ควรพลาด นั่นก็คือการโบกรถ !

เนินมะปราง

           ปู๊น ปู๊น ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง... เราเริ่มการเดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ (ลงพิษณุโลก) รอบ 22.00 น. ที่สถานีหัวลำโพง เราหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทาง ไม่รู้เพราะเสียงรถไฟแล่นดังหรือตื่นเต้นที่ได้นั่งรถไฟเป็นครั้งแรกก็ไม่รู้ กว่า 7 ชั่วโมง ในที่สุดรถไฟก็มาจอดเทียบชานชาลาที่สถานีรถไฟเมืองพิษณุโลกตอนตี 5 แม้จะเช้าอยู่แต่บริเวณหน้าสถานีรถไฟก็มีตลาดเช้าให้พวกเราได้หาอะไรอร่อย ๆ กินรองท้องเพียบ

           เรากินกันจนอาการหนังท้องตึงเริ่มกำเริบ แต่จะหลับไม่ได้เด็ดขาด เพราะต้องออกเดินทางกันต่อ เรานั่งรถสองแถวจากหน้าสถานีรถไฟไป บขส. (เก่า) เพื่อซื้อตั๋วรถไป "เนินมะปราง" โดยรถสายพิษณุโลก-เนินมะปราง จะมาทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ก่อนถึงอำเภอเนินมะปราง เรามาทำความรู้จักอำเภอนี้กันสักนิด

           อำเภอเล็ก ๆ นี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดพิษณุโลก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 68 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ก่อตั้งมาประมาณ 40 กว่าปี ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นภูเขาหินปูนอายุกว่า 300 ล้านปี มีหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝน จึงเกิดเป็นถ้ำต่าง ๆ มากมาย ชาวบ้านอำเภอเนินมะปรางส่วนใหญ่จะมีอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำไร่ และเพาะปลูก โดยใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย เราสองคนลงจากรถมายืนงง ๆ ว่าจะเดินทางกันต่อด้วยวิธีไหนดี สุดท้ายก็เลยเดินไปที่สถานีตำรวจเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นจุดจอดรถพอดี และสะดุดกับคำว่า "ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว" จากที่สอบถามข้อมูลพี่ตำรวจแนะนำให้เรานั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

เนินมะปราง

           พาเที่ยวบริเวณรอบ ๆ ตำบลบ้านมุง เพราะที่นี่ยังไม่มีร้านให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน ดังนั้นการเหมารถมอเตอร์ไซค์รับจ้างพาเที่ยวแต่ละสถานที่เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 300 บาท (ซึ่งราคาก็พอจะต่อรองกันได้) แต่เรากับเพื่อนจ้างให้ไปส่งแค่วัดบ้านมุง เพราะหลังจากนี้พวกเราจะออกตะลุยกันเอง จะได้สัมผัสกับผู้คนอย่างใกล้ชิด ระยะทางจากสถานีตำรวจมาถึงวัดบ้านมุง ประมาณ 7-8 กิโลเมตร บริเวณใกล้ ๆ วัดบ้านมุงจะมีถ้ำอยู่ 2 ถ้ำ คือถ้ำนางสิบสอง และถ้ำหลวงพ่อบุญมี ที่อยู่ทางขวามือ ซึ่งหากเพื่อน ๆ มีเวลาสามารถรอชมฝูงค้างคาวบินออกจากถ้ำเป็นสายคดโค้งยาวหลายกิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00-19.00 น. ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน Unseen ของอำเภอเนินมะปรางเลยล่ะ

เนินมะปราง

           หลังจากนั้นเรากับเพื่อนก็เดินเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านบริเวณรอบตำบลบ้านมุง บรรยากาศของที่นี่เป็นพื้นที่ที่มีภูเขาหินปูนสลับซับซ้อนทอดยาวอยู่รอบตัว เห็นแล้วอยากจะยกวิวนี้ไปไว้ที่หลังบ้านตัวเองจริง ๆ หลังจากถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนได้สักพักก็มีพี่คนหนึ่งเข้ามาทักทายพวกเรา พี่คนนี้คือ "พี่ตุ่น" ซึ่งพี่เขาเป็นผู้บุกเบิกและประชาสัมพันธ์ให้อำเภอเนินมะปรางเป็นแหล่งท่องเที่ยวจนมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ และด้วยความโชคดีพี่ตุ่นอาสาพาเราสองคนเที่ยวรอบ ๆ ตำบลบ้านมุง ชมวิวทิวทัศน์ภูเขาเสาหิน ที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนา และทุ่งข้าวโพด เห็นแบบนี้แล้วบอกตรง ๆ ว่าชักเริ่มตกหลุมรักที่นี่แล้วจริง ๆ

           เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่บ้านมุงกันจนเต็มอิ่ม เราเตรียมตัวเดินทางไปสถานที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดทริปนี้ นั่นเพราะภาพที่มีต้นไม้ใหญ่ ๆ มีชิงช้า สามารถมองเห็นวิวเขียว ๆ แบบ 180 องศา เพียงหนึ่งภาพทำให้เราสะดุดตาและเกิดคำถามว่าที่นี่คือที่ไหนกัน ประเทศไทยมีอะไรแบบนี้ด้วยหรือ ? วินาทีนั้นก็บอกกับตัวเองว่า "ต้องไปที่นี่ให้ได้" จึงหาข้อมูลจนได้รู้ว่าชิงช้าบนต้นไม้ใหญ่นี้คือ "บ้านสวนชมวิว" ภูรักไทย ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก นั่นเอง

           เราอำลาพี่ตุ่นแล้วมารอรถโดยสารอีกครั้ง เพื่อจะขึ้นรถสายเนินมะปราง-พิษณุโลก นั่งไปลงแยกน้ำปาด (น้ำปาดพิษณุโลกนะคะ ไม่ใช่ที่อุตรดิตถ์) แต่เวลาผ่านไปนานมาก ๆ รถก็ไม่มาสักที ในขณะที่เวลาใกล้ค่ำกำลังจะมาเยือน เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจ "โบกรถ" โบกอยู่สักพักก็มีรถกระบะคันหนึ่งผ่านมา ซึ่งมีคุณลุงและคุณป้าผู้ใจดีอยู่ในรถ เหมือนโชคเข้าข้างพวกเรา ท่านทั้งสองอาสาไปส่งเราถึงที่หมาย เพราะบ้านของคุณลุงคุณป้าอยู่ใกล้กับบ้านสวนชมวิวพอดี ทั้งนี้ต้องขอบคุณคุณลุงและคุณป้ามาก ๆ นะคะ ที่มาส่งพวกเราจนถึงที่พัก (แต่หากเพื่อน ๆ ไม่สามารถโบกรถได้จริง ๆ สามารถโทรแจ้งทางที่พักให้คนมารับที่แยกน้ำปาดได้ค่ะ อาจจะต้องเสียค่าบริการเล็กน้อย เพราะเส้นทางต้องขึ้นเขาบางส่วน) หลังจากวันนี้เดินทางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว คืนนี้เลยขอชาร์จแบตให้กับร่างกาย เก็บแรงไว้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ให้ชุ่มปอดในวันพรุ่งนี้ให้เต็มอิ่มแต่หัวค่ำดีกว่า

           สวัสดีเช้าวันใหม่ เราตื่นกันแต่เช้า (ต่างกับเวลาทำงานที่นอนครบ 8 ชั่วโมง ยังไม่อยากจะตื่นเลย) เพื่อมาดื่มด่ำกับบรรยากาศดีหลังฝนตกหนักเมื่อคืน ทำให้เช้านี้มีหมอกอ่อน ๆ ลอยอ้อยอิ่ง บรรยากาศสวย ๆ ตรงหน้าเราขอลิสต์ให้เป็นที่พักราคาหลักร้อย แต่วิวราคาหลักล้าน แถมยกกำลังสองและคูณให้อีกสามเลย เพราะภาพตรงหน้า ทำให้รู้สึกว่าประเทศไทยสวยงามมาก สวยงามจนอยากจะหยุดเวลาไว้กับบรรยากาศและวิว 180 องศา ในมุมสูงนี้ หากยืนบนชิงช้าแล้วมองลงไปจะเห็นวิวของตำบลบ้านมุง เห็นวิวภูเขาหินปูนสลับกันไปมา หากมองไปไกล ๆ ทางซ้ายจะเป็นเขาค้อ และตรงใกล้ ๆ เขาค้อที่มีหมอกหนา ๆ นั้นคือวิวของภูทับเบิก ซึ่งเป็นสองสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ มาที่นี่ที่เดียวแต่ได้เห็นวิวตั้งสองจังหวัด 

เนินมะปราง

           ช่วงเวลานี้เรากับเพื่อนบอกได้เลยว่าสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบและความสบายใจเอามาก ๆ หลังจากที่เรากับเพื่อนนั่งจิบกาแฟ ชมวิว และถ่ายภาพอย่างเพลิน ๆ จู่ ๆ ก็เหมือนได้ยินเสียงเทเลทับบี้แว่วมาในหัวว่า "หมดเวลาสนุกแล้วสิ..." งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถึงเวลาเก็บกระเป๋า พร้อมโบกมือลาอำเภอเนินมะปราง เมืองสวรรค์เล็ก ๆ แห่งนี้แล้ว ขากลับโชคก็เข้าข้างอีกครั้ง เราพบพี่สองคนแวะมาถ่ายรูปวิวที่นี่ พวกเราคุยกันถูกคอพี่ ๆ เลยอาสาไปส่งที่สถานีขนส่งจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้เรานั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ ความสุขที่อัดแน่นอยู่ในใจ ทำให้เราสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาเยือนเมืองสวรรค์เล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยจิตใจของผู้คนที่ไม่เล็กแห่งนี้อีกครั้ง แล้วพบกันใหม่นะ "เนินมะปราง...ดินแดนสวรรค์ของประเทศไทย"

           งบประมาณ

           + ค่ารถไฟไปพิษณุโลก : 309 บาท
           + ค่ารถสองแถวไป บขส. (เก่า) : เหมาทั้งคัน 60 บาท (หารกับเพื่อน 2 คน คนละ 30 บาท)
           + ค่ารถโดยสารไปเนินมะปราง : 70 บาท
           + ค่ารถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปวัดบ้านมุง : 50 บาท
           + ค่าที่พักบ้านสวนชมวิว ภูรักไทย : 200 บาท/คน
           + ค่ารถทัวร์กลับกรุงเทพฯ : 270 บาท
           + ค่าอาหาร-น้ำ : 400 บาท
           รวมคนละ 1,329 บาท

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


ที่มา:http://travel.kapook.com