ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ตำบลวังบาล จ. เพชรบูรณ์ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของจังหวัด เพชรบูรณ์ ภูมิประเทศมีความงดงามเป็นที่กล่าวถึง เป็นความงามของทะเลภูเขาตามธรรมชาติป่าไม้ อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆตัดกับยอดภูสีเขียว มีไร่กะหล่ำปลีที่ปลูกลดหลั่นไปตามไหล่เขา ภูทับเบิกเป็นสถานที่ ที่มีความสำคัญมากที่หนึ่ง เพราะเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542เวลา 15.59 น. ณ สำนักสงฆ์บ้านทับเบิก เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้าถวายเป็นพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 เป็นสถานที่ที่มีเครื่องวัดอุณหภูมิที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและยังเป็นเส้นทาง เชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยว และประวัติศาสตร์ที่สำคัญ คือ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

ชาวบ้านที่ภูทับเบิกเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง หรือแม้ว ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากทางภาคเหนือ และได้ใช้พื้นที่ ปลูกฝิ่น สำหรับจำหน่าย ในปี พ.ศ. 2510 ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ได้ชักชวนให้ชาวเขาเหล่านี้เข้าร่วมต่อต้าน รัฐบาล แต่เมื่อมีการเข้าปราบปรามและชาวบ้าน ได้เข้ามอบตัว จึงได้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัด เพชรบูรณ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2525 โดยชาวบ้านได้ประกอบ อาชีพเกษตรกรรม มีการทำแปลงเกษตรแบบขั้นบันได วิถีชีวิตของชางม้งที่นี่ ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ในทุกๆ ปี จะจัดงานปีใหม่แบบดั้งเดิมและมีการแสดงวัฒนธรรมด้วย จากสภาพดังกล่าว จึงทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสแก่นแท้วิถีชีวิต วัฒนธรรมชุมชน และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยว เชิงนิเวศ ที่กำลังมีกระแสความนิยมอยู่ทั่วไป ภายใต้คำกล่าวที่ว่า"นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน"
1. ชมทะเลหมอก
ภูทับเบิกยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและอลังการอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีสายหมอกลอยคลอกเคลียตามไหล่เขาให้ได้ชมแทบทุกจุด ทั้งหน้าที่พักและบริเเวณจุดชมวิวสูงสุดซึ่งเป็นหอวัดอุณหภูมิ โดยเฉพาะหากมาในช่วงหน้าฝนประมาณ เดือนมิ.ย.- ต.ค.มักจะ พบเห็นทะเลหมอกได้ง่ายกว่าหน้าหนาว
ภูทับเบิกยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและอลังการอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีสายหมอกลอยคลอกเคลียตามไหล่เขาให้ได้ชมแทบทุกจุด ทั้งหน้าที่พักและบริเเวณจุดชมวิวสูงสุดซึ่งเป็นหอวัดอุณหภูมิ โดยเฉพาะหากมาในช่วงหน้าฝนประมาณ เดือนมิ.ย.- ต.ค.มักจะ พบเห็นทะเลหมอกได้ง่ายกว่าหน้าหนาว
จุดชมวิวทะเลหมอกระหว่างทางก่อนถึงภูทับเบิก


จุดชมวิวบริเวณ ไร่ริมผา ภาพถ่ายปลาย ส.ค. 58













วิวบริเวณจุดชมวิวสูงสุด ส.ค. 58




วิวจากไร่ภูทะเลหมอก




ภูทับเบิกเวลานี้เต็มไปด้วยที่พัก ภาพถ่าย ส.ค 58



วิวสวยๆระหว่างทางเลยจุดชมวิวไม้กางเขน

ภูทับเบิก ณ จุดชมวิวสูงสุด เวลาเที่ยง มิ.ย 58





2 ชมไร่กะหล่ำปลี
ปัจจุบันไร่กะหล่ำปลีได้ถูกนำมาทำรีสอร์ทเยอะ ทำให้แปลงกะหล่ำเหลือให้ชมน้อย แต่ก็ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ไร่ที่พื้นที่กว้าง หน่อย จะอยู่ถัดไปจากจุดชมวิวไปเยอะ เลยไปในส่วนที่ตั้งของไม้กางเขน กะหล่ำปลีจะมีให้ชมเยอะในช่วงเดือนก.ค. และ พ.ย.
ปัจจุบันไร่กะหล่ำปลีได้ถูกนำมาทำรีสอร์ทเยอะ ทำให้แปลงกะหล่ำเหลือให้ชมน้อย แต่ก็ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ไร่ที่พื้นที่กว้าง หน่อย จะอยู่ถัดไปจากจุดชมวิวไปเยอะ เลยไปในส่วนที่ตั้งของไม้กางเขน กะหล่ำปลีจะมีให้ชมเยอะในช่วงเดือนก.ค. และ พ.ย.
ไร่กะหล่ำปลีเลยจุดชมวิวไม้กางแขน ถ่ายมิย. 58

การเดินทางไปภูทับเบิก
1.รถยนต์ส่วนตัว
- เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัด สระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16กิโลเมตร สู่ภูทับเบิก จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวง หมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสักตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทาง ไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและ คดเคี้ยว มาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วย ความระมัดระวัง
- อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเลยที่ทำการ อุทยานฯ มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิกหากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่ จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่า
2.รถประจำทาง
การเดินทางมายังภูทับเบิกหากไม่มีรถยนต์มาเอง ต้องนั่งรถโดยสารมาลงที่หล่มสัก การเดินทางมาหล่มสัก หลังจากนั้น เหมาสองแถว ที่อยู่บริเวณหล่มสักเพื่อขึ้นสู่ภูทับเบิกอัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท หรือแล้วแต่ตกลง
- เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัด สระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึงตัวเมืองสระบุรี จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16กิโลเมตร สู่ภูทับเบิก จากเพชรบูรณ์ ใช้ทางหลวง หมายเลข 21 ประมาณ 40 กิโลเมตร ถึงสี่แยกหล่มสักตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 203 อีก 13 กิโลเมตร พบป้ายบอกทาง ไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าตามทางหลวง 2011 และทางหลวงหมายเลข 2331 อีก 40 กิโลเมตร ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจาก ตรงนี้มีทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านทับเบิกไปอีก 6 กิโลเมตร เส้นทางจากหล่มเก่ามาภูทับเบิกจะสูงชันและ คดเคี้ยว มาก รถบัสไม่สามารถขึ้นได้ ผู้ที่ใช้รถยนต์หรือรถตู้ ควรขับรถด้วย ความระมัดระวัง
- อีกเส้นทางหนึ่งใช้เส้นทางด้านอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเลยที่ทำการ อุทยานฯ มาประมาณ 24 กิโลเมตร จะถึงภูทับเบิกหากขับรถต่อไปจะมาบรรจบกับเส้นทางที่ จะลงไปยังอำเภอหล่มเก่า
2.รถประจำทาง
การเดินทางมายังภูทับเบิกหากไม่มีรถยนต์มาเอง ต้องนั่งรถโดยสารมาลงที่หล่มสัก การเดินทางมาหล่มสัก หลังจากนั้น เหมาสองแถว ที่อยู่บริเวณหล่มสักเพื่อขึ้นสู่ภูทับเบิกอัตราค่าจ้างประมาณ 1,200 บาท หรือแล้วแต่ตกลง
ที่มา: http://www.paiduaykan.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น