วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ออกตามล่าทางช้างเผือก ณ สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

          ตามล่าทางช้างเผือก ที่สามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชมความสวยงามของทางช้างเผือกและเส้นแสงดาวระยิบระยับ รับรองว่าไม่เคยพบเห็นจากที่ไหนมาก่อน


          คนในเมืองใหญ่เมื่อแหงนหน้าดูดาวทีไรเป็นต้องผิดหวังทุกที แค่จะเห็นกลุ่มดาวสักกลุ่มว่ายากแล้ว ยิ่งไม่ต้องหวังที่จะเห็นทางช้างเผือกพาดผ่านท้องฟ้าให้ได้เห็นกันง่าย ๆ เนื่องจากมลภาวะทางแสงและฝุ่นควันในตัวเมือง ที่บดบังไม่ให้เราได้เห็นความงดงามนั้น มีหลายคนที่คิดอยากจะออกเดินทางตามล่าดูความสวยงามของทางช้างเผือก อย่างน้อยเพื่อที่จะได้เห็นด้วยตาตัวเองดูสักครั้ง เหมือนกับ คุณ teeShutterB ได้พบกับแสงดาววาววับของเส้นทางช้างเผือกเรืองแสงอยู่ปลายฟ้าทั่วน่านฟ้าสามร้อยยอดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่สุดแห่งความงดงามที่ยากเกินจะบรรยาย…


+++++++++++++++++
          สวัสดีครับ วันก่อนได้กล้องใหม่ตัวหนึ่งมาลอง 3 วัน เป็นกล้องในกลุ่มท็อปของตลาด เมื่อเป็นกล้องในระดับท็อปนี้เองจึงอยากหาที่โหด ๆ ในการทดสอบว่าทำได้แค่ไหน สถานที่ที่เลือกจะไปทดสอบคือสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งใจว่าจะถ่ายดาวและทางช้างเผือก (การถ่ายทางช้างเผือกจำเป็นจะต้องดึงไฟล์เยอะมาก ๆ จึงค่อนข้างโหด)

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

          สามร้อยยอดเป็นสถานที่ที่ผมไปมาหลายรอบแล้ว ผมคิดว่ามีมุมสวย ๆ หลายมุม ผมตั้งใจไว้นานแล้วว่าอยากถ่ายทางช้างเผือกทั่วสามร้อยยอด สมใจแล้วครับ

ตามหาเส้นแสงดาว สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์

          ป.ล. และท่านใดอยากแจม ร่วมทริปถ่ายภาพตามรอยกระทู้นี้ สอบถามได้ที่ FB ครับ ... เฟซบุ๊ก teeshutterb
 
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ teeShutterB

ที่มา:http://travel.kapook.com

5 ร้านอาหารพัทลุง ความอร่อยเด็ดแบบต้องร้องหรอยจังฮู้

ร้านอาหารพัทลุง

          ร้านอาหารพัทลุง ร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อแห่งเมืองพัทลุง ไปเที่ยวพัทลุงเมื่อไรต้องไปลิ้มลอง มีทั้งอาหารไทย อาหารพื้นบ้านภาคใต้ อาหารนานาชาติ และขนมหวาน ความอร่อยเด็ดแห่งพัทลุงที่ไม่ควรพลาด


          จังหวัดพัทลุง เป็นจังหวัดที่มีวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งยังมีธรรมชาติของป่าเขาที่สวยงาม น่าหลงใหล และด้วยความที่เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติ จึงเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ จึงไม่แปลกใจที่จังหวัดแห่งนี้จะมีร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย วันนี้เราได้คัด 5 ร้านอาหารพัทลุงเด็ด ๆ มาไว้ที่นี้แล้ว อยากรู้ว่าของดีเมืองพัทลุงมีอะไรบ้าง ต้องตามไปชมกัน


1. ครัวสังข์หยด

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

          ครัวสังข์หยด ให้บริการอาหารไทย อาหารพื้นบ้านของภาคใต้ พร้อมทั้งอาหารจีน มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ใครชอบรสชาติเผ็ดน้อย เผ็ดมาก สามารถสั่งได้ตามความชอบใจ เมนูที่แนะนำ อาทิ ส้มตำไหลบัวไข่เค็ม รสชาติเผ็ดเปรี้ยวจัดจ้าน กินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ อร่อยอย่าบอกใคร ตามมาด้วยใบเหลียงผัดไข่ ตัดกับความเผ็ดของส้มตำได้อย่างดี มาใต้ทั้งทีต้องได้ลองแกงส้มปลากระบอก น้ำซุปเปรี้ยวเผ็ดกำลังดี มียอดมะพร้าวและไหลบัวที่กรุบกรอบช่วยเพิ่มความอร่อย อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาดก็คือปลาดุกร้า อาหารท้องถิ่นชาวพัทลุง รสชาติเค็มนิด ๆ มีมะนาวมาชูโรงความเปรี้ยว และพริกซอยให้รสชาติเผ็ด ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยกำลังพอดี นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟให้ได้นั่งจิบกาแฟชิล ๆ อีกด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 7462 0534
          เฟซบุ๊ก : ครัวสังข์หยด

2. สวนอาหารควนมะพร้าว

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

          ตั้งอยู่ในสวนสวยร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศเงียบสงบ มีทั้งโต๊ะภายในสวนและในอาคาร ใครอยากสังสรรค์แบบหมู่คณะก็มีห้องอาหารส่วนตัวไว้รองรับ อาหารมีทั้งอาหารไทยและอาหารพื้นบ้านภาคใต้ รสชาติจัดจ้าน อร่อยกลมกล่อมทุกเมนู เริ่มด้วยเมนูเบา ๆ อย่างน้ำพริกกะปิแมงดา ทานคู่กับผักพื้นบ้านสด ๆ พร้อมทั้งสะตอเผาหอมกรุ่น เพิ่มความจัดจ้านด้วยเมนูสุดฮิตอย่างยำยอดผักกูด น้ำยำเปรี้ยวนำ เผ็ดนิด ๆ ตักกินกับผักกูดกรอบ ๆ อร่อยลงตัวสุด ๆ

          เมนูที่จะไม่บอกต่อไม่ได้ก็คือไข่เจียวมดแดง ที่นำตัวอ่อนมดแดงมาใส่เจียวกับไข่ ทอดให้ฟู เคี้ยวมัน ๆ อร่อยไปอีกแบบ ยิ่งกินกับต้มยำปลากระบอกใบมะขามอ่อน ที่ได้ความเปรี้ยวจากน้ำตาลโตนดหมักแท้ ๆ รสชาติเปรี้ยวหวานนำ ตามด้วยเผ็ดนิด ๆ เนื้อปลานุ่มกำลังดี กินเท่าไรก็ไม่มีเบื่อ อีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำก็คือ ลาบปลาช่อนทอด มีกลิ่นของข้าวคั่วหอม น้ำลาบเปรี้ยวเผ็ด ตัวปลากรอบนอกนุ่มใน จะทานกับข้าวสวย หรือกินเป็นเมนูทานเล่น ก็อร่อยไม่แพ้กัน

          ที่ตั้ง : เลขที่ 5 หมู่ที่ 9 ตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 7461 2895
          เฟซบุ๊ก : สวนอาหารควนมะพร้าว


3. ครัววิวยอ ศรีปากประ รีสอร์ท ทะเลน้อย

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

          ครัววิวยอ ตั้งอยู่ริมปากคลองปากประ ที่เชื่อมต่อเข้าสู่ทะเลน้อย ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันเงียบสงบของทะเลน้อย มีลมเย็นพัดผ่านตลอดทั้งวัน สามารถชมวิวทะเลน้อยและยอ (เครื่องดักจับปลา) ของชาวบ้านได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามหาชมได้ยาก นอกจากทำเลที่ตั้งอันโดดเด่นแล้ว ที่นี่ยังให้บริการอาหารหลากหลายแบบ รสชาติอร่อยจัดจ้าน ตามแบบฉบับชาวใต้ไม่ผิดเพี้ยน ทั้งน้ำพริกกะปิกุ้งสด ที่เผ็ดจัดจ้านสะใจ กินคู่กับผักพื้นบ้านและสะตอเผา ตามมาด้วยส้มตำกุ้งสด มะละกอกรอบ รสชาติ 3 รส มีกุ้งเนื้อหวานนุ่มมาตัดความเผ็ดได้เป็นอย่างดี

          ถ้ายังกินกุ้งไม่สะใจต้องลองเมนูกุ้งแช่น้ำจิ้มซีฟู้ด กินคู่กับมะระที่ขมนิด ๆ อร่อยกลมกล่อมไม่ซ้ำใคร เมนูอื่น ๆ ที่ห้ามพลาด อาทิ แกงต้มกะทิสายบัวกุ้ง, ปลาทอดกรอบราดน้ำยำสูตรพิเศษ, แกงส้มปลากด, ห่อหมกมะพร้าวอ่อน เป็นต้น

        
  ที่ตั้ง : 222 บ้านชายเล ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 09 5036 0466 , 08 1969 3791
          เฟซบุ๊ก : Sripakpra Resort Thalenoi


4. หลานตาชูสเต็กเฮ้าส์ สาขาในเมือง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

          หลานตาชูสเต็กเฮ้าท์ ร้านอาหารไทย อาหารสไตล์ยุโรป และอาหารนานาชาติ แน่นอนว่าเมนูเด่น ๆ ของที่นี่ต้องเป็นสเต๊กแน่นอน เพราะที่นี่เลือกใช้แต่วัตถุดิบระดับพรีเมียม คัดสรรเนื้อชั้นดี ผักสด ๆ และเครื่องปรุงคุณภาพดี มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารสุดอร่อย ไม่มีใครไม่ติดใจแน่นอน เมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ สลัดหมูย่าง หมูเนื้อนุ่ม กับผักสด ๆ เป็นเมนูออร์เดิร์ฟที่เรียกน้ำย่อยได้อย่างดี เมนูต่อมาที่หลายคนติดใจก็คือปลาหมึกย่างซอสญี่ปุ่น เนื้อปลาหมึกที่สดใหม่ นำไปย่างในไฟกำลังพอดี เนื้อจึงหวานนุ่ม ยิ่งเมื่อทานคู่กับซอสญี่ปุ่น ก็ยิ่งหอมอร่อย จนต้องยกนิ้วให้ นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน อาทิ แกงส้มกุ้งสดไข่ชะอมทอด, ใบเหลียงผัดไข่, แกงไตปลา, ปลาทรายทอดกระเทียม เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ถนนราเมศวร์ ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
          เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 7461 7988, 08 8792 2787
          เฟซบุ๊ก : หลานตาชูสเต็กเฮ้าส์


5. ขนมหวานป้ากี้


ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

ร้านอาหารพัทลุง

          ขนมหวานป้ากี้ ตำนานความหวานแห่งเมืองพัทลุงที่คนท้องถิ่นรู้จักกันเป็นอย่างดี มีนักท่องเที่ยวมากมายมาแวะชิมและซื้อกลับไปเป็นของฝากกันไม่ขาดสาย ขนมหวานที่ห้ามพลาด อาทิ สาคูสดราดด้วยน้ำกะทิ, ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ, ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด, ถั่วเขียวต้มน้ำตาล, รวมมิตร, กล้วยไข่เชื่อม, มันเชื่อม, พุทราเชื่อม เป็นต้น อีกหนึ่งเมนูที่ต้องลิ้มลองก็คือ เต้าหูทอดทรงเครื่อง เนื้อเต้าหู้กรอบกำลังดี ราดด้วยน้ำจิ้มถั่วสูตรพิเศษของป้ากี้ กินกับแตงกวาสด อร่อยจนคำสุดท้ายจริง ๆ

          ที่ตั้ง : 247 ถนนควนขนุน-ปากคลอง ตำบลควนขนุน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
          เวลาเปิด-ปิด : 11.00-16.00 น.
          โทรศัพท์ : 0 7467 2352, 08 5893 8739
          เฟซบุ๊ก : ขนมหวานป้ากี้ปากคลอง
          นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของร้านอร่อยเด็ดแห่งเมืองพัทลุงเท่านั้น เพราะเมืองพัทลุงยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ อีกมากมาย หากใครมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนเมืองพัทลุง ก็ลองไปแวะชิมลิ้มลองกันได้เลยค่ะ รสชาติอาหารถูกปาก ถูกใจคนไทยแน่นอน :)

ขอขอบคุณกองประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ที่มาhttp://travel.kapook.com

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559

12 ที่เที่ยวมุกดาหาร จังหวัดประตูหน้าด่านสู่อินโดจีน

ที่เที่ยวมุกดาหาร



           ที่เที่ยวมุกดาหาร จังหวัดชายแดนภาคอีสานของไทย เปรียบเสมือนเป็นประตู่สู่กลุ่มประเทศอินโดจีน เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ และวิถีชีวิตผู้คนที่น่าสนใจ

ข้อมูลจังหวัดมุกดาหาร

           จังหวัดมุกดาหาร มีเนื้อที่ประมาณ 4,340 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 52 ของประเทศ สภาพพื้นที่ทางทิศเหนือและทิศใต้เป็นที่ราบสูง ทางทิศตะวันตกเป็นเทือกเขาภูพานมีป่าไม้หนาแน่น ส่วนทิศตะวันออกเป็นที่ราบสลับป่าไม้ และมีแม่น้ำโขงไหลผ่านเป็นระยะทางประมาณ 72 กิโลเมตร เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัด เริ่มก่อตั้งเป็นเมืองขึ้นในราวปี พ.ศ. 2310 สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อ "เจ้ากินรี" บุตรชายของเจ้าจันทรสุริยวงศ์ ผู้ปกครองบ้านหลวงโพนสิน ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณพระธาตุอิงฮัง แขวงสะหวันนะเขต (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในปัจจุบัน) ได้ข้ามลำน้ำโขงมาสร้างเมืองขึ้นที่บริเวณปากห้วยมุก แล้วตั้งชื่อเมืองว่า "มุกดาหาร" ต่อมาในปี พ.ศ. 2321 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เจ้ากินรีเป็น "พระยาจันทรศรีสุราช อุปราชามัณฑาตุราช" ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นคนแรกของเมืองมุกดาหาร

           มุกดาหาร จังหวัดชายแดนทางภาคอีสานของไทย หลายคนอาจมองว่ามุกดาหารเปรียบเป็นเมืองหน้าด่านที่ทอดผ่านไปประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยเพราะลักษณะของภูมิประเทศติดกับแม่น้ำโขง ทำให้ที่มุกดาหารมีวิวสวย ๆ รวมถึงยังพลเมืองจังหวัดที่ประกอบด้วยชนพื้นเมืองที่หลากหลาย มุกดาหารจึงเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร ที่สำคัญมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ มากมาย สามารถพูดได้เลยว่ามุกดาหารเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม มุกดาหารในวันนี้จะมีอะไรน่าสนใจและน่าเที่ยวบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย


1. วัดพระศรีมหาโพธิ์

ที่เที่ยวมุกดาหาร
ภาพจาก ททท.

          วัดพระศรีมหาโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมานานนับ 100 ปี ตั้งอยู่กลางใจเมือง บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงตั้งอยู่ที่บ้านหว้านใหญ่ อำเภอหว้านใหญ่ ภายในวัดจะมีโบราณสถานคือสิมอีสาน (โบสถ์) ที่เก่าแก่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2459 ศิลปะผสมตะวันตก ไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส เป็นสิมที่ผนัง 3 ด้าน ภายในผนังจะมีธูปแต้มหรือจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวของพระเวสสันดรชาดกที่เป็นฝีมือของช่างพื้นบ้าน ซึ่งนับว่าเป็นภาพที่งดงามและหาดูได้ยากในปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในวัดยังมีกุฏิเก่าแก่ซึ่งปัจจุบันทำเป็นห้องสมุดประชาชน สร้างโดยช่างชาวเวียดนาม เป็นสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส มีซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นรูปโค้ง สวยงามแปลกตา

2. วัดศรีมงคลใต้

          วัดศรีมงคลใต้ ตั้งอยู่บริเวณถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองมุกดาหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างสมัยกรุงธนบุรี ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "พระเจ้าองค์หลวง" พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ประชาชนชาวไทยและลาวเลื่อมใสศรัทธามาหลายชั่วอายุคน สร้างขึ้นก่อนตั้งเมืองมุกดาหาร แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างในสมัยใด มีขนาดหน้าตักกว้าง 2.20 เมตร ส่วนสูงเฉพาะองค์ถึงยอดพระเมาลี 2 เมตร

3. ศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง

ที่เที่ยวมุกดาหาร
ภาพจาก ททท.

          ตั้งอยู่บนถนนสองนางสถิตย์ ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ในบริเวณศาลมีหลักเมืองประดิษฐานอยู่ด้วย ศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองนี้ไม่มีผู้ใดทราบความเป็นมาว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าคงจะสร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองมุกดาหาร แต่เดิมเป็นเพียงศาลไม้ต่อมาได้มีการบูรณะก่อสร้างเป็นศาลคอนกรีต ชาวเมืองมุกดาหารถือว่าศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ปกปักรักษาเมืองมุกดาหารให้ร่มเย็นเป็นสุข ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวเมืองมุกดาหารจะมีพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองพร้อมกับเจ้าแม่สองนางพี่น้องพร้อมกันเพื่อความเป็นสิริมงคล



4. ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง

ที่เที่ยวมุกดาหาร
ภาพจาก ททท.

          ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง ตั้งอยู่บนถนนสำราญชายโขง ริมแม่น้ำโขง เยื้องไปทางทิศเหนือของวัดศรีมงคลใต้ ติดกับด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร ศาลแห่งนี้เดิมเป็นศาลไม้ต่อมาได้มีการบูรณะเรื่อยมาจนเป็นคอนกรีตดังปัจจุบัน

          ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องนี้มีเรื่องเล่าขานกันมานานว่าราวปี พ.ศ. 1896 เจ้าฟ้างุ้ม แห่งเมืองล้านช้าง เป็นบุตรเขยกษัตริย์เมืองอินทะปัด ได้พาลูกหลานอพยพตามลำน้ำโขงผ่านเมืองหนองคาย เมืองนครพนม จนถึงเขตเมืองมุกดาหาร แล้วเกิดเรือล่มที่บริเวณปากห้วยมุกทำให้ธิดาสาวทั้งสองคนซึ่งมีพระนามว่า พระนางพิมพา กับ พระนางลมพามา สิ้นชีพิตักษัย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2313 เจ้ากินรีได้มาสร้างเมืองมุกดาหารพร้อมกับได้สร้างโบสถ์วัดศรีมงคลใต้ขึ้น และในขณะก่อสร้างได้พบพระเมาลีพระพุทธรูปเหล็กจมอยู่ใต้พื้นดิน (บริเวณศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องในปัจจุบัน) จึงขุดไปประดิษฐาน ณ โบสถ์วัดศรีมงคลใต้ แต่พอรุ่งขึ้นพระพุทธรูปเหล็กองค์นั้นก็กลับมาประดิษฐานอยู่ที่เดิมที่พบในครั้งแรกอีก ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า "พระหลุบเหล็ก"

          ประกอบกับบริเวณดังกล่าว ทุกวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 6 จะมีเสียงร่ำไห้ของผู้หญิงสองคน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเสียงของพระนางพิมพากับพระนางลมพามา และได้แสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่เนือง ๆ เจ้ากินรี เจ้าเมืองมุกดาหารได้สืบทราบประวัติแห่งความเป็นมาจึงตั้งศาลขึ้น ณ ที่แห่งนั้น เพื่อให้วิญญาณได้สิงสถิต เมื่อ พ.ศ. 2315 และได้ขนานนามว่า "ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง" อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองมุกดาหารโดยทั่วกัน โดยถือเอาเดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นเดือนที่ทำพิธีเซ่นไหว้และบวงสรวงศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้

          ทั้งนี้ชาวจังหวัดมุกดาหารถือว่าศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คู่กับศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง ผู้ใดที่เคารพสักการะศาลเจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมืองแล้ว จะเลยไปเคารพสักการะศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้องด้วยเสมอ และในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ชาวจังหวัดมุกดาหารจะจัดให้มีพิธีบวงสรวง เจ้าพ่อเจ้าฟ้ามุงเมือง และเจ้าแม่สองนางพี่น้องพร้อมกัน

5. สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี วัดสองคอน

ที่เที่ยวมุกดาหาร
ภาพจาก ททท.
          ตั้งอยู่ที่ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ เป็นโบสถ์คริสต์สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีงานบุญราศีวัดสองคอน จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติบุญราศี มรณสักขีทั้ง 7 ท่าน ที่ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อครั้งเกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (ดูเพิ่มเติมได้ที่ thai.tourismthailand.org)

          ปัจจุบันวัดสองคอนกำลังเป็นแหล่งศาสนาคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามแปลกตาของตัวอาคาร คือเป็นโบสถ์คริสต์สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ใหญ่และสวยที่สุดในอุษาคเนย์ เคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี พ.ศ. 2539 โบสถ์แห่งนี้ได้ออกแบบโดย ดร.อัชชพล ดุสิตนานนท์ เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กโถงสี่เหลี่ยมชั้นเดียว ผนังของวัดและส่วนไว้พระธาตุเป็นกระจกใส บริเวณด้านหน้าเป็นส่วนประกอบพิธี มีพื้นที่กว้างขวาง ส่วนด้านหลังเป็นที่เก็บอัฐิของบุญราศีทั้ง 7 ภายในมีโลงแก้วบรรจุหุ่นขี้ผึ้งของบุญราศีทั้ง 7 ไว้ให้สักการบูชา มีไม้กางเขน 7 แห่ง ด้านหน้าแทนบุญราศีทั้ง 7 ที่อุทิศชีวิตในป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิสูจน์ศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า ทุก ๆ ปี ในวันที่ 22 ตุลาคม คณะกรรมการบุญราศรีจะมีพิธีเฉลิมฉลองรำลึกถึงการสถาปนาแต่งตั้ง "บุญราศีมรณสักขี" และในวันที่ 16 ธันวาคมของทุกปีจะมีพิธีรำลึกบุญราศีสองคอน

          วัดสองคอนมีบริเวณกว้างขวางและมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและสักการะทุกวันระหว่างเวลา 08.00-18.00 น. คริสตชนสามารถร่วมพิธีบูชามิสซาได้ในวันอาทิตย์ เวลา 07.00 น. (ข้อแนะนำ : สักการสถานพระมารดาแห่งมรณะสักขี เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมและสักการะได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-17.00 น.)



6. น้ำตกตาดโตน

          ตั้งอยู่ที่บ้านโนนยาง อำเภอหนองสูง เป็นน้ำตกแห่งเดียวและเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด มีลักษณะเป็นน้ำตกชั้นเดียว มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแนวราบยาวสวยงาม ความสูงน้ำตกประมาณ 7 เมตร กว้าง 30 เมตร มีแอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำได้ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น สวยงาม ในช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูร้อนน้ำจะใสไหลเย็นยิ่งชวนให้น่าลงเล่นน้ำเป็นอย่างมาก

7. ภูหมู

          ภูหมูเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามยิ่งอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สำคัญและสวยงามแห่งหนึ่งของอำเภอนิคมคำสร้อย มองเห็นทุ่งนา ไร่สวนของชาวบ้านไกลสุดลูกตา โดยในช่วงฤดูหนาวลมจะพัดแรงและหนาวมาก ภูหมูมีความสูง 353 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีพื้นที่ราบบนยอดเขาประมาณ 4 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,500 ไร่ เมื่อสมัยก่อนบริเวณนี้มีหมูป่าชุกชุมมาก บนยอดเขามีจุดชมวิวซึ่งเป็นหน้าผา 3 จุด

          ● จุดชมวิวที่ 1 อยู่ด้านตะวันออกของที่ทำการ สามารถมองเห็นภูถ้ำเม่น ภูไม้ซาง ภูแผงม้า และอ่างเก็บน้ำห้วยขี้เหล็กได้อย่างชัดเจน

          ● จุดชมวิวที่ 2 อยู่ด้านทิศตะวันตก สามารถมองเห็นถนนทางขึ้นภูหมู ภูน้อย ภูติ้ว ภูโล้น ภูกะล่อน วัดภูด่านแต้ และเทือกเขาภูพานสลับซับซ้อน

          ● จุดชมวิวที่ 3 อยู่บริเวณยอดเขาด้านทิศใต้ สามารถมองเห็นภูถ้ำพระและอำเภอเลิงนกทา ในบริเวณนี้ยังมีร่มไม้ใหญ่และลานหินซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

          โดยสามารถพักค้างแรมในบ้านพักหรือเต็นท์ตามที่อุทยานจัดไว้ การเดินทางนักท่องเที่ยวจะต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากต้องการคำแนะนำในการเดินทางไปยังภูหมูสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว โทรศัพท์ 0 4261 9076 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760 ตลอดวันและเวลาทำการ

8. ตลาดอินโดจีน

ที่เที่ยวมุกดาหาร
ภาพจาก netsuthep / shutterstock.com
          ตลาดอินโดจีน ตั้งอยู่บริเวณถนนสำราญชายโขงในตัวเมืองมุกดาหาร หน้าวัดศรีมงคลใต้ เป็นแหล่งรวมสินค้านำเข้าจากนานาประเทศ เช่น รัสเซีย จีน เวียดนาม และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำหน่ายทั้งราคาส่งและปลีก ส่วนมากจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เซรามิก เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอุปโภคและบริโภคต่าง ๆ นอกจากสินค้าที่นำเข้ามา จำหน่ายจากต่างประเทศแล้วยังมีสินค้าพื้นเมืองของชาวมุกดาหารมาจำหน่ายอีกด้วย เช่น ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ และสินค้าท้องถิ่นอื่น

9. อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ

ที่เที่ยวมุกดาหาร

          เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 59 ของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองมุกดาหารและอำเภอดอนตาล ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายประกอบด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่หลายลูกติดต่อกันแบบลูกคลื่นและเป็นส่วนปลายสุดของเทือกเขาภูพาน เทือกเขาเหล่านี้วางตัวในลักษณะแนวเหนือ-ใต้ขนาน และห่างจากชายฝั่งแม่น้ำโขงประมาณ 4 กิโลเมตร

          ภายในอุทยานภูผาเทิบประกอบด้วยภูหมากยาง ภูมโน ภูโปร่ง ภูรัง ภูจอมนาง ภูหมากมี่ ภูผาเทิบ ภูนางหงส์ ภูถ้ำพระ ภูหลักเส และยอดเขาสูงสุดคือยอดภูจอมศรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 170-420 เมตร สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าไม้เต็งรังและป่าเบญจพรรณ และยังเป็นแหล่งกำเนิดของลำห้วยหลายสาย แถบบริเวณเชิงเขาเป็นป่าไผ่ขึ้นสลับเป็นแนว หลายบริเวณเป็นหน้าผาสูง และลานหินกว้าง มีหินรูปร่างแปลก ๆ มากมาย

          สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ เช่น กลุ่มหินเทิบ การเกิดกลุ่มหินเทิบจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นที่มาของประติมากรรมธรรมชาติที่ล้วนเกิดจากการกัดเซาะของฝน น้ำ ลมและแสงแดด ผ่านกาลเวลามาถึง 120-95 ล้านปี ทำให้กลุ่มหินเหล่านี้มีสภาพแตกต่างกันไปดูคล้ายรูปเครื่องบินไอพ่น จานบิน เก๋งจีน มงกุฎ หัวจระเข้ และหอยสังข์

          ลานมุจลินท์ เป็นลานหินเรียบทอดยาวกว้างไกลต่อจากกลุ่มหินเทิบ โดยมีป่าเต็งรังแคระล้อมรอบให้ความงดงามกลมกลืนกับธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่ง มีพันธุ์ไม้พุ่มจำพวกข่อยหิน นางฟ้าจำแลง อ้นเหลือง และกระโดนดานเป็นส่วนประกอบ จุดเด่นของที่นี่ที่ไม่ควรมองข้ามคือกลุ่มดอกหญ้าของสังคมพืชขนาดเล็ก เช่น สร้อยสุวรรณา หยาดน้ำค้าง หนาวเดือนห้า ดาวรวมดวงและดุสิตา ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี ณ กลางลานแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นทัศนียภาพแม่น้ำโขงได้ด้วย

          นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นภูถ้ำพระ, น้ำตกภูถ้ำพระ, ผามะนาว, ถ้ำฝ่ามือแดง, ผางอย และผาปู่เจ้า ฯลฯ

10. แก่งกะเบา

ที่เที่ยวมุกดาหาร
ภาพจาก ททท.

          แก่งกะเบา ตั้งอยู่ในเขตบ้านนาแกน้อย ตำบลป่งขาม อำเภอหว้านใหญ่ เป็นแก่งหินยาวเหยียดตามลำน้ำโขง บนฝั่งก็ยังมีลานหินกว้างใหญ่เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี ในฤดูแล้งน้ำลดจนเห็นเกาะแก่งกลางน้ำและหาดทรายสวยกว่าฤดูอื่น ๆ ซึ่งภายในแก่งกะเบามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร บริเวณแก่งมีบริการห่วงยางให้เช่า ให้กับผู้ที่ต้องการลงเล่นน้ำก็มีบริการ ในช่วงเวลากลางวันนั้นอากาศร้อนเพราะว่าในแก่งไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ควรเอาร่มหรือหมวกกันแดดไปด้วย

11. ห้าแยกชุมชนเวียดนาม

          ตั้งอยู่ในตัวเมืองมุกดาหาร เป็นที่ตั้งชุมชนชาวเวียดนาม และเป็นตลาดอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของมุกดาหาร หากนักท่องเที่ยวมีโอกาสมามาเยือนห้าแยกเวียดนามในยามเช้าตรู่จะได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง อาทิ ข้าวเปียก กวยจั๊บญวน ข้ามต้ม เลือดแปลง หมูยอ ไส้หมูลวกจิ้ม และอื่น ๆ นอกจากจะได้ลิ้มลองอาหารเวียดนามแท้ ๆ แล้ว หากมีโอกาสมาเยือนห้าแยกเวียดนามยังจะได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของชุมชนเวียดนามดั้งเดิมที่อพยพมาอาศัยบริเวณตัวเมืองจังหวัดมุกดาหาร ในช่วงยุคอพยพย้ายถิ่นฐานและอยู่อาศัยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้

12. หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

          หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตั้งอยู่ที่บ้านภู หรือชุมชนบ้านภู เป็นชนเผ่าผู้ไทย ที่อพยพจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เมื่อ พ.ศ. 2387 ตั้งภูมิลำเนาในพื้นที่บ้านภูรวมอายุได้ 130 ปี ผู้นำหมู่บ้านคนแรกได้แก่ เจ้าสุโพสมบัติ ที่นี่มีวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาและดนตรีประเพณีต่าง ๆ อีกทั้งยังใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียง นิยมปลูกพืชผักสวนครัวหลังฤดูเก็บเกี่ยวและตามหลังบ้าน นิยมการแต่งกายให้เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน คือผู้หญิงนุ่งซิ่นทิว ใส่เสื้อเย็บมือย้อมคราม แถบชายขอบแดง ห่มผ้าสไบพาดไหล่ซ้าย คนในชุมชนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เด็กเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่

          ที่เที่ยวมุกดาหารยังมีอีกมากมายที่น่าสนใจ เอาเป็นว่าลองหาโอกาสแวะไปสัมผัสกับความเรียบง่ายและธรรมชาติที่งดงามกันดูนะ

หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2559

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
mukdahan.go.th
ที่มา:http://travel.kapook.com